วิเคราะห์ฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันเสาร์ที่ 3 มิ.ย.66
ปรีวิว เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ
วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566
(1) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ -แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (3)
สนาม : เวมบลีย์ เวลาคิกออฟ : 21.00 น.
ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์
ผลงานการพบกันในฤดูกาลนี้
14 ม.ค.2566 แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
2 ต.ค. 2565 แมนฯ ซิตี้ 6-3 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
ผลงานการพบกันในฤดูกาลที่ผ่านมา
6 มี.ค.2565 แมนฯ ซิตี้ 4-1 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
6 พ.ย.2564 แมนฯ ยูไนเต็ด 0-2 แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ผลงานในเอฟเอ คัพ
รอบรองชนะเลิศ : ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 3-0 (เหย้า)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย : ชนะ เบิร์นลี่ย์ 6-0 (เหย้า)
รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ บริสตอล ซิตี้ 3-0 (เยือน)
รอบ 4 : ชนะ อาร์เซน่อล1-0 (เหย้า)
รอบ 3 : ชนะ เชลซี 4-0 (เหย้า)
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
28 พ.ค. 2566 แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
24 พ.ค. 2566 เสมอ ไบรท์ตัน 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
21 พ.ค. คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง 2566 ชนะ เชลซี 1-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
17 พ.ค. 2566 ชนะ เรอัล มาดริด 4-0 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
14 พ.ค. 2566 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
สภาพทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้
เป๊ป กวาดิโอล่า ที่พาทีมป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ และหวังว่าจะได้แชมป์เอฟเอ คัพ เป็นถ้วยใบที่ 2 นัดนี้ ความพร้อมถือว่า 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเกมสุดท้ายในลีกที่บุกไปแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-0 เควิน เดอ บรอยน์, แจ็ค กรีลิช, รูเบน ดิอาส และ มานูเอล อาคานจี ที่ไม่ได้ลงในเกมดังกล่าว แม้จะต้องดูในเรื่องความฟิตแต่สุดท้ายเชื่อว่าทั้งหมดจะกลับมาสตาร์ตได้ เช่นเดียวกับ เอแดร์ซอน,โรดรี้, จอห์น สโตน , อิลคาย กุนโดกัน กัปตันทีม และดาวซัลโวของทีมอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่พร้อมใส่ความสดกลับลงสนาม ด้าน ริยาด มาห์เรซ แม้จะทำแฮตทริกในเกมรอบรองชนะเลิศ แต่ก็ต้องคงเบียดแย่งพื้นที่ตัวจริง
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (3-2-4-1) : เอแดร์ซอน – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, มานูเอล อาคานจี – จอห์น สโตนส์, โรดรี้ – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน, แจ็ค กรีลิช – เออร์ลิ่ง ฮาลันด์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลงานในเอฟเอ คัพ
รอบรองชนะเลิศ : เสมอ ไบรท์ตัน 0-0 (เยือน) (ชนะจุดโทษ 7-6)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย : ชนะ ฟูแล่ม 3-1 (เหย้า)
รอบ 16ทีมสุดท้าย : ชนะ เวสต์แฮม 3-1 (เหย้า)
รอบ 4 : ชนะ เรดดิ้ง 3-1 (เหย้า)
รอบ 3 : ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1 (เหย้า)
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
28 พ.ค. 2566 ชนะ ฟูแล่ม 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
25 พ.ค. 2566 ชนะ เชลซี 4-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
20 พ.ค. 2566 ชนะ บอร์นมัธ 1-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
13 พ.ค. 2566 ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
7 พ.ค. 2566 แพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
สภาพทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอริก เทน ฮาก ที่พาทีมจบอันดับ 3 ในฤดูกาลนี้ โดยเกมสุดท้ายในลีกพลิกกลับมา ชนะ ฟูแล่ม 2-1 โดยก่อนหน้านั้น "ทีมปิศาจแดง" ได้แชมป์ คาราบาว คัพ มาแล้ว เกมนี้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้า ที่มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อฉีกขาดบริเวณแฮมสตริงจะหายไม่ทันช่วยทีม ทำให้ไปอยู่ในลิสต์บาดเจ็บร่วมกับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค และ ทอม ฮีตัน ด้าน อันโตนี่ ที่เจ็บจากนัดชนะเชลซี 4-1 เป็นอีกรายที่ต้องดูว่าจะหายเจ็บกลับมาได้ทันเวลาหรือไม่ แต่หากฟิตคงเป็นแค่สำรองเท่านั้น ซึ่งจุดกลางรุกตรงนี้จะเป็นโอกาสของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ดาวรุ่งอาร์เจนไตน์ ลุค ชอว์ แบ็กซ้าย ที่เล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟได้ด้วย น่าหายจากอาการน็อกกลับมาลงสนาม ส่วน ราฟาเอล วาราน จะกลับมายึดตำแหน่งคืน จาก แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ได้โอกาสลงในเกมลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาล แนวรุก มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวซัลโวของทีมพร้อมลงปิดสกอร์ โดยมี กาเซมีโร่ เป็นตัวเชื่อมเกม คริสเตียน เอริคเซ่น หรือ เฟร็ด และใช้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เป็นเพลย์เมคเกอร์
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา – อารอน วาน-บิสซาก้า, ราฟาแอล วาราน, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์ – กาเซมีโร่, คริสเตียน เอริคเซ่น -เจดอน ซานโช่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, อเลฮานโดร การ์นาโช่ – มาร์คัส แรชฟอร์ด
ความน่าจะเป็นของเกม
ถือเป็นเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แห่งศักดิ์ศรีที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทั้งสองทีมมีเดิมพันเป็นแชมป์รายการที่ 2 ของฤดูกาล หากมองเผินๆ โอกาสใน 90 นาทีอาจเป็นไปได้ 3 หน้าก็จริง แต่หากมองในภาพรวม ด้วยขนาดทีมบวกตัวเลือก รวมถึงสภาพความสด ปฏิเสธไม่ได้ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นเหนือกว่า ซึ่งหาก เควิน เดอ บรอยน์ และ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ มาจุดติดเกมปลดล็อกยิงประตูแรก ได้เร็ว โอกาสที่เกมจะเปลี่ยนให้ลูกทีมของ เป๊ป กวาดิโอล่า ซิวแชมป์เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2022-23 พร้อมสถิติชนะ 100 เปอร์เซนต์ในรายการนี้ไปได้
สกอร์ที่คาด :
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 2-0
เกร็ดน่าสนใจก่อนเกม
-เป็นเกมดาร์บี้แม็ตช์ นัดที่ 190 โดย 189 นัดที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 78 ครั้ง แมนฯ ซิตี้ ชนะ 58 ครั้ง และจบด้วยผลเสมอ 53 นัด
-ถือเป็นการพบกันในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ เป็นครั้งแรกของทั้งสองทีมในประวัติศาสตร์รายการนี้
-นี่จะเป็นการพบกันครั้งที่ 3 ของทั้ง 2 ทีมที่เวมบลีย์ โดย 2 ครั้งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นในปี 2011 ซึ่ง ซิตี้ ชนะในเอฟเอ คัพ รอบรอง 1-0 ส่วนอีกนัด ยูไนเต็ด ชนะ 3-2 ในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์
– แมนฯ ซิตี้ เข้าชิงรายการนี้มาแล้ว 11 ครั้ง ได้แชมป์ 6 สมัย ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เข้าชิงทั้งหมด 20 ครั้ง ได้แชมป์มาครอง 12 สมัย
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าชิงรายการนี้เป็นครั้งที่ 21 ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์เท่ากับอาร์เซนอล โดยคว้าแชมป์มาแล้ว 12 ครั้ง แต่ก็แพ้ถึง 8 ครั้งในการเข้าชิงหลังสุดเทียบเท่ากับเชลซีและเอฟเวอร์ตัน
-พบกันในเอฟเอ คัพ มาแล้ว 8 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 5 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 3 นัด
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 5 จาก 6 ครั้งหลังสุดที่พบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกเอฟเอ คัพ โดยล่าสุดคือเกมเยือนที่ชนะ 3-2 เมื่อเดือนมกราคม ปี 2012 ขณะที่ชัยชนะครั้งเดียวของ ซิตี้ คือในรอบรองชนะเลิศฤดูกาล 2010-11
-พบกันในรายการนี้ครั้งหลังสุดในรายการนี้ เมื่อฤดูกาล 2011-2012 ในรอบ 3 โดยเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2 ซึ่งเกมนั้น เวย์น รูนี่ย์ ทำ 2 ประตู
-ในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ได้ คนละครั้งเท่านั้น โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำได้ในปี 2019 และ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แชมป์เมื่อปี 2016
-แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฤดูกาลนี้ยังไม่เสียประตูในรายการนี้ แม้แต่ประตูเดียว และยิงไปถึง 17 ประตู ซึ่งนับตั้งแต่ปี 1888-1889 มีเพียง 2 ทีมเท่านั้นที่คว้าแชมป์โดยไม่เสียประตู นั่นก็คือ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ในปี 1889 และ บิวรี่ ในปี 1903
-เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ทำไปแล้ว 52 ประตูในทุกรายการ ให้กับ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ อีกทั้งในการลงดวลกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ครั้งแรก เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาที่ทีมชนะ 6-3 กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ มีชื่อทำแฮตทริก อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะจารึกชื่อตัวเองในฐานะผู้เล่นนอร์เวย์คนแรกที่ทำประตูได้ในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ
-หากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สามารถคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้ จะเป็นครั้งที่ 2 ที่ทีมสามารถทำได้ หลังจากก่อนหน้านี้เคยทำไว้ใน ฤดูกาล 2018-19 โดยมีเพียง 2 ทีมเท่านั้นที่สามารถคว้าแชมป์ลีก และมาคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้ถึง 3 ครั้งนั่นคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (1993-94, 1995-96, 1998-99) และอาร์เซนอล (1970-71, 1997-98, 2001-02)